ภูมิศาสตร์ของลิเวอร์พูล

[cbd for sale]

บนแผนที่โลก พิกัดของเมืองลิเวอร์พูลอยู่ที่ละติจูด 53o เหนือ และลองจิจูด 3o ตะวันตก ลิเวอร์พูลเป็นเขตเมืองหลวงของเมอร์ซีย์ไซด์และมีอำนาจรวมในสิทธิของตนเอง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์กับเทศมณฑลแลงคาเชียร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนี้ มหานครเมอร์ซีย์ไซด์ได้ชื่อมาจากแม่น้ำเมอร์ซีย์และครอบคลุมเมืองต่างๆ ริมฝั่ง ปากแม่น้ำ และผืนแผ่นดินหลังฝั่งทะเล ลิเวอร์พูลตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเมอร์ซีย์ และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของอังกฤษ มีประชากรมากกว่า 440,000 คนในพื้นที่ประมาณ 11,100 เฮกตาร์ ความหนาแน่นของประชากรในลิเวอร์พูลอยู่ที่ประมาณ 40 ต่อเฮกตาร์

เป็นที่ทราบกันดีว่ามีการตั้งถิ่นฐานตามริมฝั่งแม่น้ำ Mersey ในบริเวณที่เรารู้จักกันในชื่อ Liverpool ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 1 การตั้งถิ่นฐานเหล่านี้น่าจะเป็นชุมชนชาวประมงเล็กๆ ซึ่งในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา พื้นผิวธรณีวิทยาของลิเวอร์พูลมีความหนาไม่เกิน 10 เมตรและเป็นดินเหนียวปนทรายกรวด มีทรายและก้อนกรวดทับถม ซึ่งถูกธารน้ำแข็งที่ถอยร่นลงมาในช่วงยุคน้ำแข็งสุดท้าย ฐานหินที่โดดเด่นในลิเวอร์พูลคือหินทรายที่ถูกวางในยุค Triassic เมื่อประมาณ 250 ล้านปีที่แล้ว ทางทิศตะวันตก เมืองนี้ยังติดกับแหล่งหินดินดานคาร์บอนิเฟอรัส หินโคลนและหินทราย เช่นเดียวกับแหล่งแร่ถ่านหินแลงคาเชียร์ ครั้งหนึ่ง ตะกอนถ่านหินสามารถใช้งานได้ แต่ตอนนี้ ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่อยู่ต่ำกว่า 1,200 เมตร พวกมันถือว่าไม่สามารถทำงานได้ในเชิงเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการศึกษาศักยภาพของก๊าซมีเทนในถ่านหินในฐานะแหล่งพลังงานสะอาดซึ่งอาจส่งผลให้ตะกอนถ่านหินนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 มีการค้นพบแหล่งน้ำมันและก๊าซในอ่าวลิเวอร์พูล นอกชายฝั่ง The Wirral สามารถผลิตก๊าซได้ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรและน้ำมัน 70,000 บาร์เรลต่อวัน ปัจจุบันแหล่งนี้มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อพื้นที่โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่อปีมากกว่า 60 ล้านปอนด์ ด้วยวัสดุทราย กรวด และดินเหนียวที่มีอยู่ในท้องถิ่น วัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมที่ใช้ในลิเวอร์พูลจึงถูกขึ้นรูปเป็นอิฐและกระเบื้องดินเผาสำหรับมุงหลังคา

ในทางเทคนิคแล้วลิเวอร์พูลทอดยาวไปตามฝั่งตะวันออกของปากแม่น้ำเมอร์ซีย์ 21 กม. แทนที่จะเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านจริงๆ Mersey เกิดขึ้นที่จุดบรรจบของแม่น้ำ Tame และแม่น้ำ Goyt ที่ Stockport ในแลงคาเชียร์ คลองเรือแมนเชสเตอร์ที่มีชื่อเสียงเชื่อมต่อกับแม่น้ำที่ Eastham Locks และเป็นเส้นทางที่นำเข้าฝ้ายไปยังท่าเรือที่ Liverpool และส่งต่อไปยังเมืองแมนเชสเตอร์และเมืองทอผ้าอื่นๆ ของแลงคาเชียร์ แม้ว่าเมืองลิเวอร์พูลได้พัฒนาไปรอบๆ แนวสันเขาเจ็ดลูกที่แตกต่างกัน แต่แผ่นดินแทบจะไม่สูงเกินกว่า 50 เมตร โดยจุดสูงสุดอยู่ที่ Everton Hill ซึ่งสูง 70 เมตร

สภาพภูมิอากาศในลิเวอร์พูลเป็นแบบฉบับของอังกฤษที่ค่อนข้างอบอุ่น เนื่องจากระบบสภาพอากาศส่วนใหญ่มาจากลมตะวันตกที่พัดมา อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนมกราคมอยู่ที่ 50 องศาเซลเซียส และในเดือนกรกฎาคมจะอยู่ที่ 150 องศาเซลเซียส โดยเฉลี่ยแล้วลิเวอร์พูลได้รับปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า 750 มล. ต่อปี ซึ่งเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งที่ตั้งบนชายฝั่งตะวันตกของอังกฤษแล้ว เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม ผืนแผ่นดินของไอร์แลนด์ทางทิศตะวันตก ดูดซับปริมาณน้ำฝนส่วนใหญ่ที่ไหลมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมิฉะนั้นอาจตกใส่ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูลมีฝนตกโดยเฉลี่ยประมาณ 175 วันต่อปี อุณหภูมิในเดือนมกราคมสูงกว่าที่คาดไว้สำหรับเมืองทางตอนเหนือของอังกฤษ นี่เป็นเพราะเมืองและท่าเรือได้รับประโยชน์จากผลกระทบที่ครอบคลุมของ North Atlantic Drift

เป็นเวลาหลายปีที่ลิเวอร์พูลถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่ตกต่ำทางเศรษฐกิจด้วยสต็อกของต้นทุนต่ำและที่อยู่อาศัยคุณภาพต่ำ การฟื้นฟูเมืองเมื่อเร็วๆ นี้ทำให้ราคาสต็อกที่อยู่อาศัยของเมืองเพิ่มขึ้นถึง 15% ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาบ้านในลิเวอร์พูลผันผวนเมื่อเทียบกับแนวโน้มระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ขึ้นอยู่กับประเภทของอสังหาริมทรัพย์ แต่ตลาดที่อยู่อาศัยที่นี่ค่อนข้างคึกคัก ในช่วงต้นปี 2550 บ้านแฝด 3 ห้องนอนในลิเวอร์พูลมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 155,000 ปอนด์ ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยของภูมิภาค แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศซึ่งอยู่ที่ 185,000 ปอนด์ ราคาเฉลี่ยของบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอนในลิเวอร์พูลอยู่ที่ 290,000 ปอนด์ ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอีกครั้ง แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเกือบ 10% บ้านขนาด 2 ห้องนอนในลิเวอร์พูลจะมีราคาประมาณ 100,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอีกครั้ง แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเกือบ 20% มูลค่าเฉลี่ยในภูมิภาคของแฟลตสองห้องนอนคือ 115,000 ปอนด์ ในขณะที่ลิเวอร์พูลอยู่ที่ 150,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเล็กน้อย